อาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน กินอย่างไรให้คุมนํ้าตาลอยู่

การควบคุมอาหารถือเป็นหัวใจสำคัญการคุมนํ้าตาลในผู้ป่วยเบาหวาน ตั้งแต่การเลือกอาหารที่เหมาะสม เทคนิคการกิน ไปจนถึงการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีความเสี่ยงและไขความเข้าใจผิด เพื่อคุมนํ้าตาลให้ได้ผลจริง

เข้าใจโรคเบาหวาน และความสำคัญของการควบคุมอาหาร 

โรคเบาหวานเป็นภาวะที่เซลล์ในร่างกายไม่สามารถนำนํ้าตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้ตามปกติ ส่งผลให้ระดับนํ้าตาลในเลือดสูงเกินไป การควบคุมอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยรักษาระดับนํ้าตาลให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม พร้อมทั้งให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน ลดความเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อน เช่น เบาหวานขึ้นตา เบาหวานลงไต โรคหัวใจและหลอดเลือด และยังช่วยควบคุมนํ้าหนักให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอีกด้วย 

หลักการรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน 

การรับประทานอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน คือการเลือกกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ กินตรงเวลาและครบ 3 มื้อ โดยควบคุมปริมาณอาหารแต่ละมื้อให้ใกล้เคียงกัน หลีกเลี่ยงการกินจุบจิบ เลือกเนื้อสัตว์ที่มีไขมันตํ่า เช่น ไก่หรือปลา ใช้นํ้ามันพืชแทนไขมันสัตว์ เลือกผลไม้ที่มีดัชนีนํ้าตาลตํ่า เช่น ฝรั่ง แก้วมังกร ชมพู่ และหลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มหรือหวานจัด รวมถึงงดอาหาร และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 

ดัชนีนํ้าตาล (Glycemic index) คือค่าที่ใช่บ่งบอกถึงความสามารถของอาหารที่ประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตว่ามีผลต่อการเพิ่มของระดับนํ้าตาลในเลือดภายใน 2-3 ชั่วโมง หลังการบริโภคอาหารชนิดนั้น โดยแบ่งได้ทั้งหมด 3 ระดับได้แก่ 

  1. ดัชนีนํ้าตาลตํ่า หรือ Low Glycemic index คือมีค่าอยู่ระหว่าง 1-55 
  2. ดัชนีนํ้าตาลปานกลาง หรือ Medium Glycemic index คือมีค่าอยู่ระหว่าง 56-69 
  3. ดัชนีนํ้าตาลสูง หรือ High Glycemic index คือมีค่ามากกว่า 70 

ซึ่งการเลือกทานอาหารกลุ่มที่มีดัชนีนํ้าตาลตํ่า จะช่วยควบคุมระดับนํ้าตาลได้ดีกว่าอาหารกลุ่มที่มีดัชนีนํ้าตาลสูง 

ตัวอย่างอาหารที่ควรเลือกรับประทาน 

สำหรับอาหารที่ควรเลือกรับประทานในผู้ป่วยเบาหวานจะมีดังนี้ 

  • อาหารประเภทผักผลไม้ที่มีกากใยสูง สำหรับผลไม้ควรเลือกที่มีดัชนีนํ้าตาลตํ่าได้แก่ ฝรั่ง แก้วมังกร ชมพู่ แอปเปิ้ลเขียว กล้วยนํ้าว้าและมะม่วงดิบ 
  • ธัญพืชที่มีกากใยสูง เช่นข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต บัควีต ขนมปังไม่ขัดสี และควินัว 
  • เนื้อสัตว์ไม่ติดมันที่มีคอเลสเตอรรอลตํ่า เช่น ไก่ ปลา ส่วนตัวของกุ้ง และไข่ขาว 
  • ไขมันดีจากถั่วต่าง ๆ และเมล็ดธัญพืช เช่น เมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจีย เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน งา นํ้ามันมะกอก นํ้ามันปลา อะโวคาโด และปลาต่างๆ เช่นแซลมอน ทูน่า แมกเคอเรล 
  • อาหารที่อุดมด้วยโปรตีนชั้นดี เช่น ไข่ ถั่ว โยเกิร์ตที่ไม่มีนํ้าตาล นมจืด และผลิตภัณฑ์จากนมอื่น ๆ ที่มีไขมันและนํ้าตาลน้อย 

โดยเมนูอาหารที่ผู้ป่วยเบาหวานเลือกรับประทานได้ในชีวิตประจำวัน เช่น 

  • ข้าวต้มกุ้ง หรือโจ๊กหมูสับ 1 ถ้วย ส้มเขียวหวาน 1 ผล 
  • แซนวิชผักโขม ไข่ และชีส แคนตาลูป 1 จานเล็ก กาแฟดำ หรือกาแฟใส่นํ้าไขมันตํ่า+นํ้าตาล 1 ช้อนชา 
  • ขนมปังโฮลวีท 1 แผ่น ไข่ดาว หรือไข่ต้ม 1 ฟอง ผักสลัด 1 จาน 
  • ก๋วยเตี๋ยวนํ้าหรือแห้ง 1 ชาม ผลไม้ที่ไม่หวาน 1 จานเล็ก 
  • ส้มตำไทย 1 จาน ไก่ย่างไม่ติดหนัง 1 ชิ้น ข้าวเหนียว 1 จานเล็ก (1/2 ถ้วย) 
  • ข้าวผัด 1 จาน ผักสลัด 1 จาน 
  • ข้าวกล้องหรือข้าวสวย 1 ทัพพี แกงส้มผักรวม / ผัดผักรวมกุ้ง / แกงจืดตำลึงเต้าหู้หมูสับ ปลานึ่ง หรือปลาเผา 1 ชิ้น 
  • ข้าวกล้องหรือข้าวสวย 1 ทัพพี ปลาทูทอด 1 ตัว และนํ้าพริก+ผักสดหรือผักลวก 1 จาน 

ตัวอย่างอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงนํ้าตาลขึ้น

  • อาหารที่มีไขมันและนํ้าตาลสูง เช่น ของทอด ของหวาน หรือฟาสต์ฟู๊ด 
  • อาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง 
  • ธัญพืชที่ผ่านการขัดสี เช่น ขนมปังขาว อาหารเช้าซีเรียลแบบนํ้าตาลสูง ข้าวขาว 
  • เนื้อสัตว์ติดมัน ติดหนัง เครื่องในสัตว์ และเนื้อที่ผ่านการแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน กุนเชียง หมูยอ แหนม 
  • เครื่องดื่มที่มีนํ้าตาล เช่น นํ้าผลไม้ นมเปรี้ยว ชานมไข่มุก นํ้าอัดลม เครื่องดื่มบำรุงกำลัง นมข้นหวาน 
  • เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมทั้งยาดองเหล้า 
  • ผลไม้หวานจัด เช่น ละมุด ลำไข ขนุน ทุเรียน ลิ้นจี่ ผลไม้แห้ง ผลไม้เชื่อม ผลไม้แช่อิ่ม กวน ผลไม้หมักดอง ผลไม้กระป่อง 
  • นํ้ามันหมู นํ้ามันปาล์ม นํ้ามันมะพร้าว 
  • นมไขมันเต็มส่วน 

เทคนิคการกินให้นํ้าตาลคุมอยู่ 

วิธีการวางแผนมื้ออาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เพื่อควบคุมระดับนํ้าตาลในเลือดให้อยู่ ได้แก่

วิธีที่ 1 แบ่งส่วนจานอาหารสุขภาพดี 

เพื่อให้ผู้ป่วยวางแผนมื้ออาหารอย่างง่ายที่สุด คือการแบ่งสัดส่วนใจจานอาหาร เพียงใช้จานเส้นผ่าศูนย์กลาง 9 นิ้ว แล้วแบ่งส่วนอาหารดังนี้ 

  • ½ ของจานเป็นผักที่มีแป้งตํ่า และผักสลัดทั้งหลาย 
  • ¼ ของจานเป็นโปรตีนจากเนื้อสัตว์ 
  • ¼ ของจานเป็นธัญพืชเต็มเมล็ดหรือธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี 
  • เติมไขมันดีเล็กน้อย เช่นไขมันจากถั่ว
  • เพิ่มสารอาหารให้ครบถ้วนด้วยผลไม้และผลิตภัณฑ์จากนมไขมันตํ่า 
  • ดื่มนํ้าเปล่าหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีนํ้าตาล 

วิธีที่ 2 นับคาร์โบไฮเดรต 

อาหารจำพวกแป้ง และนํ้าตาลส่งผลให้ระดับนํ้าตาลในเลือดสูงขึ้น ดังนั้นการคำนวณปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ได้รับในแต่ละวัน จึงเป็นอีกวิธีในการควบคุมนํ้าตาลในเลือด และยังช่วยให้ผู้ป่วยที่ต้องได้รับอินซูลิน สามารถปรับปริมาณอินซูลินให้เหมาะสมได้ 

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับอาหารในผู้ป่วยเบาหวาน 

1. การรับประทานอาหารที่มีนํ้าตาลสูงทำให้เป็นเบาหวาน นอกจากการรับประทานอาหารที่มีนํ้าตาลสูงเป็นเวลานานจะทำให้เกิดเบาหวานได้แล้ว เบาหวานยังสามารถเกิดจากพันธุกรรม และการใช้ชีวิตอื่น ๆ ได้ 

2. ห้ามรับประทานอาหารที่มีรสหวาน หากรับประทานขนมหวาน หรือผลไม้ในสัดส่วนที่เหมาะสมร่วมกับการออกกำลังกาย หรือคุมอาหาร ก็ยังสามารถรับประทานอาหารที่มีรสหวานต่อได้ 

3. นํ้าตาลจากผลไม้ปลอดภัยทานได้ ผลไม้ที่มีรสหวาน ผลไม้อบแห้ง ผลไม้ตากแห้ง และผลไม้แปรรูปต่าง ๆ เป็นผลไม้ที่มีนํ้าตาลสูงจึงไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก 

4. นํ้าตาลในผู้ป่วยเบาหวานที่สามารถรับประทานได้ ผู้ป่วยเบาหวานสามารถรับประทานนํ้าตาลอื่นทดแทนนํ้าตาลทรายได้ โดยนํ้าตาลที่เลือกใช้ได้แก่ 

• แอสปาร์แตม ในปริมาณ 38 มิลลิกรัม สามารถให้ความหวานเท่ากับนํ้าตาล 2 ช้อนชา ซึ่ง USFDA อนุญาตให้ใช้ได้วันละ 50 มิลลิกรัมต่อนํ้าหนักตัว 1 กิโลกรัม แต่ทนความร้อนสูงไม่ได้จึงต้องใส่หลังประกอบอาหารแล้ว ส่วนใหญ่จะใช้ในปริมาณที่น้อยกว่านี้มาก สามารถใส่ในอาหาร หรือดื่มได้ 

• ฟรุคโตส เป็นนํ้าตาลผลไม้ที่มีรสหวานกว่านํ้าตาลทรายเกือบ 2 เท่า ทำให้ระดับนํ้าตาลในเลือดสูงช้ากว่านํ้าตาลทราย แต่ถ้ารับประทานในปริมาณมากอาจทำให้ระดับนํ้าตาล และระดับไขมันในเลือดสูงขึ้นได้ 

การควบคุมอาหารเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาระดับนํ้าตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานให้คงที่ และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแทรกซ้อน การเลือกอาหารที่มีดัชนีนํ้าตาลตํ่า ธัญพืชไม่ขัดสี และไขมันดี พร้อมลดหวาน มัน เค็ม และวางแผนมื้ออาหารอย่างเหมาะสม จะช่วยดูแลสุขภาพของผู้ป่วยให้ดีได้ในระยะยาว

เขียนบทความโดย ภญ.ฐิตาภา ภาษานนท์

อ้างอิง 
1.สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย. ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวาน [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย; [สืบค้นเมื่อ 4 พ.ค. 2025]. เข้าถึงได้จาก: https://www.dmthai.org/new/index.php/sara-khwam-ru/understand-diabetes/understand-diabetes-2 
2.โรงพยาบาลเปาโล. เบาหวาน กินอะไรได้บ้าง [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลเปาโล; [สืบค้นเมื่อ 4 พ.ค. 2025]. เข้าถึงได้จาก: https://www.paolohospital.com/th-th/kaset/Article/Details/เบาหวาน-กินอะไรได้บ้าง 
3.โรงพยาบาลศิครินทร์. เบาหวาน [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลศิครินทร์; [สืบค้นเมื่อ 4 พ.ค. 2025]. เข้าถึงได้จาก: https://www.sikarin.com/health/เบาหวาน 
4.โรงพยาบาลเจ้าพระยาสุวรรณภูมิ. โภชนาการกับการควบคุมเบาหวาน [อินเทอร์เน็ต]. สมุทรปราการ: โรงพยาบาลเจ้าพระยาสุวรรณภูมิ; [ไม่ทราบปีที่เผยแพร่] [สืบค้นเมื่อ 4 พ.ค. 2025]. เข้าถึงได้จาก: https://www.princsuvarnabhumi.com/articles/content-diet-and-diabetes-control 
5.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย. ผลไม้รสหวาน ดัชนีนํ้าตาล [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย; [ไม่ทราบปีที่เผยแพร่] [สืบค้นเมื่อ 4 พ.ค. 2025]. เข้าถึงได้จาก: https://kcmh.chulalongkornhospital.go.th/line/ผลไม้รสหวาน-ดัชนีนํ้าตาล 
6. PrimoCare. อาหารผู้ป่วยเบาหวาน [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: PrimoCare; [สืบค้นเมื่อ 4 พ.ค. 2025]. เข้าถึงได้จาก: https://primocare.com/อาหารผู้ป่วยเบาหวาน 
7.โรงพยาบาลพญาไท. ตัวอย่างการวางแผนมื้อ [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลพญาไท; [สืบค้นเมื่อ 4 พ.ค. 2025]. เข้าถึงได้จาก: https://www.phyathai.com/th/article/3134-ตัวอย่างการวางแผนมื้อ 
8.โรงพยาบาลพญาไท. ผู้ป่วยเบาหวานควรทานข [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลพญาไท; [สืบค้นเมื่อ 4 พ.ค. 2025]. เข้าถึงได้จาก: https://www.phyathai.com/th/article/3133-ผู้ป่วยเบาหวานควรทานข 
9.โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์. Diabetes facts [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์; [สืบค้นเมื่อ 4 พ.ค. 2025]. เข้าถึงได้จาก: https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/diabetes-facts 
10.โรงพยาบาลกรุงเทพ. Diabetes myths and facts [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลกรุงเทพ; [สืบค้นเมื่อ 4 พ.ค. 2025]. เข้าถึงได้จาก: https://www.bangkokhospital.com/content/diabetes-myths-and-facts 
11.โรงพยาบาลพญาไท. ผู้ป่วยเบาหวานควรทานข้าวอย่างไร [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพฯ: โรงพยาบาลพญาไท; [ไม่ทราบปีที่เผยแพร่] [สืบค้นเมื่อ 4 พ.ค. 2025]. เข้าถึงได้จาก: https://www.phyathai.com/th/article/3133-ผู้ป่วยเบาหวานควรทานข้าวอย่างไร

สินค้าแนะนำ