เบาหวานกับโรคแทรกซ้อนที่ไม่ควรเสี่ยง ป้องกันได้ถ้าคุมตัวเลขอยู่

โรคเบาหวาน ไม่ใช่แค่เรื่องของ "น้ำตาลสูง" เท่านั้น แต่คือภาวะที่หากไม่ได้รับการควบคุมที่ดี จะนำไปสู่ "โรคแทรกซ้อน" ที่รุนแรงและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมหาศาล หลายคนอาจไม่รู้ว่าภัยเงียบเหล่านี้กำลังคืบคลานเข้ามา จนกระทั่งปรากฏอาการที่อาจสายเกินไป แต่ข่าวดีคือ ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ ป้องกันได้ หากคุณใส่ใจกับการ "คุมตัวเลข" สำคัญให้ได้ตามเป้าหมาย

ทำไมเบาหวานจึงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน?

เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติเป็นเวลานาน มันจะทำลายเส้นเลือดเล็กๆ และเส้นเลือดใหญ่ทั่วร่างกายอย่างช้าๆ ทำให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะต่าง ๆ เช่น ตา ไต หัวใจ หลอดเลือด และระบบประสาท เปรียบเสมือนสนิมที่กัดกร่อนเครื่องจักรอย่างเงียบ ๆ จนกระทั่งเครื่องจักรนั้นหยุดทำงาน

ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่พบบ่อย และตัวเลขที่คุณต้องคุม

ภาวะแทรกซ้อนทางตา (เบาหวานขึ้นตา)
ความอันตราย: ทำให้จอประสาทตาเสื่อม ตาพร่ามัว เห็นจุดดำลอยไปมา จนถึงขั้นตาบอดได้
ตัวเลขที่ต้องคุม:
• ระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c): ควรน้อยกว่า 7%
• ระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหาร: 80-130 mg/dL
• ระดับน้ำตาลในเลือด 2 ชั่วโมงหลังอาหาร: น้อยกว่า 180 mg/dL
• สิ่งสำคัญ: ตรวจตาโดยจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละครั้ง

ภาวะแทรกซ้อนทางไต (เบาหวานลงไต)
ความอันตราย: ไตเสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ จนนำไปสู่ภาวะไตวายเรื้อรัง ต้องฟอกไตหรือปลูกถ่ายไต
ตัวเลขที่ต้องคุม:
• ระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c): ควรน้อยกว่า 7%
• ความดันโลหิต: ควรน้อยกว่า 130/80 mmHg (หรือตามที่แพทย์แนะนำ)
• ตรวจการทำงานของไต (GFR) และตรวจโปรตีนในปัสสาวะ: ควรทำเป็นประจำตามแพทย์นัด
• สิ่งสำคัญ: ลดเค็ม หลีกเลี่ยงยาที่ทำลายไต

ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท (ปลายประสาทเสื่อม)
ความอันตราย: ชา ปวดแสบปวดร้อนที่ปลายมือปลายเท้า สูญเสียการรับรู้ความรู้สึก ทำให้ไม่รู้ตัวเมื่อมีแผล ซึ่งอาจนำไปสู่การติดเชื้อรุนแรงและต้องตัดอวัยวะทิ้ง
ตัวเลขที่ต้องคุม:
• ระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c): ควรน้อยกว่า 7%
• สิ่งสำคัญ: ตรวจเท้าทุกวัน ใส่รองเท้าที่เหมาะสม ไม่เดินเท้าเปล่า

ภาวะแทรกซ้อนทางหลอดเลือดหัวใจและสมอง
ความอันตราย: เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือด หัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง (อัมพฤกษ์ อัมพาต)
ตัวเลขที่ต้องคุม:
ระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c): ควรน้อยกว่า 7%
ความดันโลหิต: ควรน้อยกว่า 130/80 mmHg
ไขมัน LDL-C: ควรน้อยกว่า 100 mg/dL หรือตามที่แพทย์แนะนำ
สิ่งสำคัญ: ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย งดสูบบุหรี่

คุมตัวเลขอยู่...ชีวิตก็อยู่รอด! ด้วยข้อมูลจากเครื่องตรวจน้ำตาล
การป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน ไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณเข้าใจและใส่ใจกับ "ตัวเลข" สำคัญเหล่านี้:

ระดับน้ำตาลสะสม (HbA1c): สะท้อนค่าน้ำตาลเฉลี่ย 2-3 เดือนที่ผ่านมา ควรต่ำกว่า 7% (แต่เป้าหมายอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์)
• ระดับน้ำตาลในเลือดก่อนอาหาร: 80-130 mg/dL
• ระดับน้ำตาลในเลือด 2 ชั่วโมงหลังอาหาร: น้อยกว่า 180 mg/dL
• ความดันโลหิต: ควรน้อยกว่า 130/80 mmHg
• ไขมัน LDL-C: ควรน้อยกว่า 100 mg/dL

การคุมตัวเลขเหล่านี้ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ต้องอาศัยวินัยในการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การใช้ยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และที่สำคัญอย่างยิ่งคือ การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดที่บ้านเป็นประจำ ด้วยเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด 

เครื่องตรวจน้ำตาลเปรียบเสมือนดวงตาที่ช่วยให้คุณมองเห็น และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลในร่างกายได้อย่างเรียลไทม์

การบันทึกค่าที่ได้จากเครื่องตรวจน้ำตาลเป็นประจำ จะช่วยให้

• เห็นภาพรวม: เข้าใจว่าอาหาร มื้อไหน กิจกรรมใด หรือความเครียด มีผลต่อระดับน้ำตาลของคุณอย่างไร
• ปรับพฤติกรรมได้ทันท่วงที: เมื่อพบว่าน้ำตาลสูงหรือต่ำผิดปกติ คุณสามารถปรับการกินหรือกิจกรรมได้อย่างรวดเร็ว
• เป็นข้อมูลสำคัญให้แพทย์: บันทึกข้อมูลน้ำตาลที่แม่นยำจะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินผลการรักษา ปรับแผนการใช้ยา หรือให้คำแนะนำด้านโภชนาการได้อย่างเหมาะสมและตรงจุดยิ่งขึ้น

โรคเบาหวานไม่ใช่จุดจบของชีวิต หากเราใส่ใจและลงมือทำ การควบคุมระดับน้ำตาล ความดันโลหิต และไขมันในเลือด ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ คือกุญแจสำคัญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้น หมั่นปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอ และนำข้อมูลที่ได้จาก เครื่องตรวจน้ำตาลในเลือดคู่ใจของคุณ ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้คุณมีชีวิตที่ยืนยาว แข็งแรง และห่างไกลจากภัยคุกคามของเบาหวานได้อย่างแท้จริง

สินค้าแนะนำ