คนไทยกว่า 5 ล้านคนป่วยเป็นเบาหวาน และเกือบครึ่งที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็น เพราะเบาหวานไม่เลือกเพศ ไม่เลือกวัย โรคเบาหวานกลายเป็น “โรคเรื้อรังอันดับต้น ๆ” ที่พบได้บ่อยในคนไทยปัจจุบัน
เบาหวาน คืออะไร?
โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินปกติ เพราะอินซูลิน หรือ ฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลทำงานผิดปกติ หรือผลิตได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้น้ำตาลสะสมในกระแสเลือดมากเกินไป
ทำไมถึงบอกว่า “เบาหวาน” เป็นโรคใกล้ตัว?
เพราะเบาหวานไม่เลือกเพศ ไม่เลือกวัย และไม่ต้องรอให้แก่ก่อนถึงจะเป็น
ในปัจจุบัน โรคเบาหวานกลายเป็น “โรคเรื้อรังอันดับต้น ๆ” ที่พบได้บ่อยในคนไทยและทั่วโลก ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบ กินหวาน กินแป้ง และเครียดสะสม ทำให้คนจำนวนมาก มีความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว แม้จะยังไม่มีอาการชัดเจน
เหตุผลที่เบาหวานเป็นโรคใกล้ตัวกว่าที่คิด
คนไทยเป็นเบาหวานกว่า 5 ล้านคน และเกือบครึ่งไม่รู้ตัวว่าเป็น (ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=15591&deptcode )
พฤติกรรมเสี่ยง พบได้ในชีวิตประจำวัน เช่น
กรรมพันธุ์ ถ้ามีพ่อแม่พี่น้องเป็นเบาหวาน ความเสี่ยงของคุณจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
วัยทำงานก็เป็นได้ ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุอีกต่อไป โดยเฉพาะคนที่กินข้าวกล่อง ขนมหวาน ชานม กาแฟใส่น้ำเชื่อมทุกวัน
“เบาหวาน” โรคที่ “ไม่มีอาการ” ในระยะแรก คนจึงมักไม่ตรวจจนกว่าจะสาย
อันตรายของเบาหวาน
แม้เบาหวานจะไม่ใช่โรคที่แสดงอาการเจ็บปวดรุนแรงในทันที แต่ความร้ายกาจของมันอยู่ที่การ ค่อย ๆ ทำลายอวัยวะภายใน โดยที่ผู้ป่วยไม่รู้ตัว หากไม่ได้รับการดูแลหรือควบคุมอย่างเหมาะสม เบาหวานสามารถนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตอย่างถาวร เช่น
เบาหวานขึ้นตา - น้ำตาลที่สูงเรื้อรังทำให้เส้นเลือดฝอยในจอประสาทตาเสียหาย ทำให้มองเห็นไม่ชัด ตาพร่ามัว และอาจสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร
ไตเสื่อม - ระดับน้ำตาลที่สูงทำลายหลอดเลือดในไต ทำให้การกรองของเสียเสื่อมลงเรื่อย ๆ จนต้องฟอกไตในที่สุด
เส้นเลือดหัวใจตีบ-หัวใจวาย - เบาหวานเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจอย่างมาก เพราะส่งผลต่อผนังหลอดเลือดโดยตรง
ปลายประสาทเสื่อม - ผู้ป่วยอาจมีอาการชาหรือปวดแสบที่มือและเท้า เสี่ยงต่อแผลที่ไม่รู้ตัวและการติดเชื้อ
แผลเรื้อรังและการตัดอวัยวะ - เพราะระบบไหลเวียนเลือดเสื่อมลง ทำให้แผลหายช้า หากติดเชื้อ อาจต้องตัดนิ้ว หรือตัดขาเพื่อป้องกันการลุกลาม
เสี่ยงติดเชื้อง่าย - ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยเบาหวานมักอ่อนแอลง ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น เช่น ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ผิวหนัง หรือช่องปาก
รู้ตัวเร็วด้วยการตรวจน้ำตาลในเลือด
การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำคือวิธีที่ง่ายที่สุดในการรู้ทันโรค
ระดับปกติของน้ำตาลในเลือดเมื่อตรวจหลังอดอาหาร 8 ชั่วโมง
ต่ำกว่า 100 mg/dL = ปกติ
100–125 mg/dL = เสี่ยงเบาหวาน
126 mg/dL ขึ้นไป = เข้าข่ายเบาหวาน
การวัดน้ำตาลหลังอาหาร 2 ชั่วโมง
การวัดน้ำตาลหลังอาหาร 2 ชั่วโมง หรือแบบ A1C ก็ควรทำควบคู่กัน โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง
ระดับน้ำตาลในเลือดหลังอาหาร 2 ชั่วโมง
ต่ำกว่า 140 mg/dL = ปกติ
140–199 mg/dL = ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes)
200 mg/dL ขึ้นไป = เบาหวาน (Diabetes)
ตรวจน้ำตาลในเลือด ได้เองได้ง่าย ๆ ที่บ้านไม่ต้องรอไปโรงพยาบาล ปัจจุบันมีเครื่องวัดน้ำตาลในเลือด แบบพกพาที่ให้คุณ ตรวจเองได้ทุกวัน ตัวอย่างเช่น เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือด GE Max Plus
เบาหวานอาจเป็นโรคเงียบที่หลายคนมองข้าม แต่การรู้เท่าทันร่างกายของเราเอง คือกุญแจสำคัญ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ป่วยเบาหวาน หรือยังไม่เคยตรวจเลย การมีเครื่องวัดน้ำตาลติดบ้านไว้คือการ “ป้องกันก่อนรักษา” ที่ง่าย และชาญฉลาดที่สุด
เช็กน้ำตาลวันนี้ เพื่อสุขภาพดีในระยะยาว